บอลยูโร 2020 กัปตันหงส์จวกนักข่าว! เขียนข่าวใส่ร้ายป้ายสี
1 min read
เวอร์กิล ฟานไดจ์ ปราการหลังจอมแกร่งของ ลิเวอร์พูล ออกมาตำหนินักข่าว ที่เขียนข่าว บอลยูโร 2020 ใส่ร้ายเขาว่าเป็นตัวการสำคัญ ในการขัดขวางไม่ให้ หลุยส์ ฟานกาล กลับมาคุมทีมชาติฮอลแลนด์ ต่อจาก โรนัลด์ เดอบัวร์
หลุยส์ ฟานกาล ถูกสมาคมฟุตบอลฮอลแลนด์ กล่อมให้มารับงานแทน โรนัลด์ เดอบัวร์ ที่พาทีมล้มเหลวในบอลยูโร 2020ซึ่งผู้สื่อข่าวอย่าง ไซม่อน มัลล็อค ของสำนักข่าว The Mirror ได้รายงานว่า ข่าวบอลออนไลน์ มีนักเตะซีเนียร์ของทีมชาติฮอลแลนด์บางส่วน ไม่เห็นด้วยกับการให้ หลุยส์ ฟานกาล เข้ามารับงานนี้ โดยมี เวอร์กิล ฟานไดจ์ และ จอร์จินิโอ ไวนาลดุม เป็นตัวตั้งตัวตี
ล่าสุด เวอร์กิล ฟานไดจ์ ได้ออกมาตอบโต้ข่าวดังกล่าว โดยการโพสต์ในทวิตเตอร์ว่า “เรื่องนี้มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยบอลยูโร 2020จรรยาบรรณของการเป็นนักข่าวควรจะเน้นรายงานเรื่องจริงเป็นสำคัญ ไม่ใช่นั่งเทียนเขียนเรื่องที่ไม่มีสาระให้ผู้คนได้อ่าน มันช่างเป็นเรื่องที่น่าละอายใจจริงๆ @ไซม่อน มัลล็อค”
บอลยูโร 2020 ทัพอัศวินสีส้ม” จะแต่งตั้งให้ หลุยส์ ฟานกาล เข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งคุมทีมชาติฮอลแลนด์ ด้วยวัย 69 ปี
หลุยส์ ฟานกาล ผ่านการคุมทีมดังๆมาอย่างโชกโชน เขาเริ่มต้นด้วยการพา อาแจ็ก อัมส์เตอร์ดัมส์ คว้าแชมป์ลีกฮอลแลนด์ 3 สมัย พ่วงด้วยแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก 1 สมัย ต่อด้วย การพา บาเซโลน่า คว้าแชมป์ลาลีก้า 2 สมัย ตามด้วยการพา อัลค์มาร์ สอยแชมป์ลีกฮอลแลนด์ ในปี 2009
บอลยูโร 2020จากนั้นคุม บาเยิร์น มิวนิค เป็นดับเบิ้ลแชมป์ลีกเยอรมัน ในปี 2010 โดยเกือบจะสอยทริปเปิ้ลแชมป์ แต่พลาดท่าแพ้ อินเตอร์ มิลาน ของ โจเซ่ มูรินโญ่ ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้ฝั่ง “งูใหญ่” เป็นทีมที่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ซะเอง
หลังจากนั้นก็มารับเผือกร้อน เป็นกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงปี 2014-2016 ได้แชมป์เอฟเอคัพหนเดียว แล้วก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง เซ่นผลงานในลีกที่ดูไม่จืด
เขาเคยคุมทีมชาติฮอลแลนด์มาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรก ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2000 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2001 ซึ่งเขาพาทีมตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2002
ส่วนในครั้งที่ 2 ระหว่างเดือนกรกฏาคม 2014 ถึงเดือนกรกฎาคม 2016 ครั้งนี้เขาพาทีมชาติฮอลแลนด์ ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 ด้วยสถิติสุดหรู ชนะ 9 เสมอ 1 ส่วนในรอบสุดท้ายก็โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง เก็บชัยชนะ 3 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม
ผลงานชิ้นเอกคือไล่ยำ สเปน บอลยูโร 2020 โคตรทีมของยุคนั้น 5-1 แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไปได้ไกลแค่รอบรองชนะเลิศ ก่อนจะพ่ายจุดโทษ อาเจนติน่า 2-4 หลังจากเสมอในเวลาปกติ 0-0
