รีวิวโปรเจคต์ ‘รีบิวท์’ ปีศาจแดง โดย โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (ตอน 1)
1 min read
จบกันไปเสียทีสำหรับภารกิจฤดูกาล 2019/20 อันแสนสาหัส เป็นฤดูกาลที่ใช้ระยะเวลาการแข่งที่ยาวนานถึง 12 เดือน ซึ่งยาวนานที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งลีกมา จากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19หลังบุกไปชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ถึงถิ่น ส่งผลให้ ‘ปีศาจแดง’ แมนฯ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 ตีตั๋วไปเล่นในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีหน้าได้สำเร็จ

ปีศาจแดง ย้อนรอยเรื่องราวใน 1 ฤดูกาลที่ผ่านมา ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สโมสรเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน
และบทความนี้ จะพาแฟนบอลปีศาจแดง ย้อนรอยเรื่องราวใน 1 ฤดูกาลที่ผ่านมา ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เข้ามาเปลี่ยนแปลงสโมสรไปมากน้อยแค่ไหน เพราะอย่างที่ทราบกันว่า ความเป็นสโมสรแห่งนี้ นอกจากงานในที่ต้องทำในสนามแล้ว ผู้จัดการทีมยังต้องทำให้แน่ใจว่า สโมสรจะยังคงอยู่ในกรอบ อยู่ในปรัชญา วัฒนธรรมของสโมสร ดังวิถียูไนเต็ด (United Way)
หลังจากที่ ‘เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน’ บรมกุนซือชาวสก็อต ประกาศลงจากบัลลังก์ปีศาจแดง ยูไนเต็ด ก็ผ่านการทำทีมของกุนซือถึง 3 คนไปแล้ว ไล่ตั้งแต่ เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัลป์ รวมถึงคนก่อนหน้าอย่าง โจเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งสภาพทีมก่อนที่จ่ามูจะถูกปลดประจำการออกไปนั้น พูดได้คำเดียวว่าเละเทะไม่มีชิ้นดี ทีมแตกเป็นเสี่ยง ไร้ซึ่งความเป็นปึกแผ่น นั่นจึงดูเหมือนเป็นงานที่ ‘เกินตัว’ ของกุนซือน้อยประสบการณ์อย่าง ‘โซลชาร์’ แต่ทุกอย่างกลับค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตามวิถียูไนเต็ด
กุนซือชาวนอร์เวย์ ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงสโมสรทุกตารางนิ้ว เริ่มจากการปรับความฟิตของนักเตะครั้งใหญ่ จากผลลัพธ์อันย่ำแย่ของเรื่องความฟิตในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนก็คือการที่ ปีศาจแดงเป็นทีมที่มีระยะการวิ่งรวมทั้งฤดูกาลเป็นอันดับเกือบสุดท้ายของลีก แถมนักเตะยังเจ็บกล้ามเนื้อกันระนาว

โซลชาร์ ได้ทำการแต่งตั้ง ‘ไมเคิล เคล็กก์’ อดีตเด็กจากอะคาเดมี่ มาเป็นโค้ชติวเข้มในเรื่องความฟิต และนั่นก็ส่งผลอย่างชัดเจนฟุตบอลในฤดูกาลนี้ ไม่ต้องพูดถึงสถิติ แค่มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าปีศาจแดงเป็นทีมที่วิ่งเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แนวรุกไล่เพรสซิ่งตั้งแต่แดนหลังของฝั่งตรงข้ามจนเซ็ทบอลกันมาลำบาก หลายครั้งที่ทีมได้ประตูจากความผิดพลาดของคู่แข่ง ซึ่งบ่อเกิดก็มาจากการเพรสซิ่งที่ดุดันนี้เอง และแม้ว่าทีมจะดูอ่อนล้าในช่วงท้ายฤดูกาล อันเนื่องมาจากการอัดโปรแกรมแข่งที่แทบไม่มีโอกาสได้พัก แต่น่าแปลกที่ภายในทีมไม่มีนักเตะบาดเจ็บจากเรื่องความฟิตเลยแม้แต่คนเดียว
พูดถึงเรื่องแทคติค จากที่แฟนบอลเคยชินกับการที่ปีศาจแดงจะเป็นทีมที่ชอบสาดบอลไปด้านหน้าแบบไร้จุดหมาย กลายมาเป็นทีมที่เซ็ทบอลอย่างเป็นระบบตั้งแต่แดนหลัง โดยตัดสินใจทยอยโละนักเตะที่ขึ้นเกมไม่ได้ออกจากทีม และซื้อกองหลังที่สามารถขึ้นเกมได้เข้ามาแทนที่‘แฮร์รี่ แมคไกวร์’ จบฤดูกาลกับสโมสรเก่าอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสถิติ ‘Ball Carrying’ หรือระยะทางที่สามารถพาบอลไปด้านหน้าได้มากที่สุดในบรรดากองหลังทั้งหมดในลีก
นอกจากนั้น ยังได้ซื้อแบคขวาที่มีสถิติการเข้าปะทะสำเร็จมากที่สุดในลีกอย่าง ‘อารอน วาน-บิสซาก้า’ เข้ามาผนวกกำลังจนทำให้จากเป็นทีมที่เสียประตูไปมากมายในปีที่แล้ว กลายเป็นทีมที่โดนพังประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของลีก และยังเก็บคลีนชีทได้มากที่สุดในบรรดาทีมในยุโรปอีกด้วย เรียกว่าการพาตัวทั้งคู่เข้ามาสู่ทีมของโซลชาร์นั้น ได้เข้ามายกระดับแนวรับให้ดีขึ้นอย่างแท้จริง