วอลเตอร์ สมิธ อดีตกุนซือเอฟเวอร์ตันเสียชีวิต วงการฟุตบอลเศร้า

วงการฟุตบอลของสหราชอาณาจักร เจอข่าวเศร้าเมื่อ วอลเตอร์ สมิธ อดีตกุนซือของเอฟเวอร์ตันและกลาสโกว์ เรนเจอร์ส เสียชีวิตอย่างกะทันหันในวัย 73 ปี โดยไม่เปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด
วงการฟุตบอลของประเทศอังกฤษและประเทศสกอตแลนด์ เจอข่าวร้ายเมื่อต้องสูญเสียบุคลากรสำคัญทาง วงการฟุตบอล อีกครั้งคราวนี้เป็นวอลเตอร์ สมิธอดีตกุนซือที่เคยพา “เดอะ ไลท์บลูส์” ครองความยิ่งใหญ่ในลีกประเทศสกอตแลนด์ เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น)

วอลเตอร์ สมิธ เสียชีวิตด้วยปัญหาสุขภาพส่วนตัวที่รุมเร้าเจ้าตัวมานาน เรื่องน่าเศร้าวงการฟุตบอลล่าสุด
โดยตามรายงานไม่ได้มีการเปิดเผยแต่อย่างใดว่า สมิธ เสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร แต่แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับอดีตผู้จัดการทีมคนดังเผยว่า อาจจะมาจากปัญหาสุขภาพส่วนตัวที่รุมเร้าเจ้าตัวมานาน โดยเจ้าตัวนั้นเริ่มเล่นเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรดันดี ยูไนเต็ด
ในประเทศสกอตแลนด์ ในตำแหน่งกองหลังระหว่างปี 1966 – 1975 ลงสนามให้กับต้นสังกัดไปทั้งหมด 108 นัดทำได้ 2 ประตู และอยู่ในทีมชุดคว้ารองแชมป์ สกอตติช คัพ ฤดูกาล 1973 – 1974
ภายหลังจากนั้นสมิธได้ย้ายมาค้าแข้งให้กับ ดัมบาร์ตัน ระหว่างปี 1975 – 1977 ก่อนจะกลับมาค้าแข้งให้กับ ดันดี ยูไนเต็ด อีกครั้งระหว่างปี 1977 – 1980 ก่อนจะแชวนสตั๊ดในที่สุด หลังจากนั้นวอลเตอร์ สมิธได้รับโอกาสคุมทีมชาติสกอตแลนด์
ชุดอายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งเขาสามารถพาชาติบ้านเกิดครองแชมป์ ยูโร 1982 รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีได้อย่างยิ่งใหญ่ ก่อนจะได้เลื่อนมาคุมรุ่นอายุไม่เกิน 21 และตัดสินใจมาคุมกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ระหว่างปี 1991 – 1998

หลังจากที่ สมิธ เข้ามาคุม กลาสโกว์ เรนเจอร์ส เข้าได้พาต้นสังกัดครองความยิ่งใหญ่ในประเทศด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสก็อตได้ถึง 7 สมัยติดต่อกัน ด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีชทำให้วอลเตอร์ สมิธมีโอกาสเข้ามารับงานเป็นกุนซือในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับเอฟเวอร์ตัน
แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนักสุดท้ายเขาโดนไล่ออกในปี 2002 และหายหน้าไปจากวงการฟุตบอลระยะหนึ่งก่อนจะได้รับโอกาสมาเป็นผู้ช่วยของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นเวลาสั้นๆ ในฤดูกาล 2003 – 2004 ก่อนที่เจ้าตัวจะไปรับงานเป็นกุนซือใหญ่ของทีมชาติสกอตแลนด์ ระหว่างปี 2004 – 2007
จากนั้นวอลเตอร์ สมิธได้กลับมายังกลาสโกว์ เรนเจอร์ส อีกครั้งระหว่างปี 2007 – 2011 และเขาพาต้นสังกัดครองแชมป์สกอตติชลีก ได้อีก 3 สมัยก่อนจะหันหลังให้กับวงการฟุตบอลในปี 2011 และมาเสียชีวิตในที่สุด