โควิท เบรค! ส่องฟอร์มดาวซัลโว 5 ลีกนำยุโรป
1 min read
เนื่องจากเหตุการณ์จากเชื้อโควิท-19 ระบาด ส่งผลให้ฟุตบอลลีกในประเทศต่าง ๆ เลื่อนเวลาคิกออฟออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัยเป็นหลัก และก็ไม่แน่อีกว่า จะกลับมาแข่งกันต่อได้อีกมั้ย ถ้าได้จะเป็นเมื่อไร และถ้าหากจำเป็นต้องตัดจบฤดูกาลจริง ๆ นักเตะเหล่านี้ อาจจะกลายเป็นดาวซัลโวประจำปีนี้ไปโดยปริยาย
- เจมี่ วาร์ดี้/ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : 17 ประตู)
คู่คีสูสีสำหรับสองหัวหอกตัวแบกประจำทีม ระหว่าง เจมี่ วาร์ดี้ และ ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง โดยในช่วงต้นฤดูกาล ดูท่าศูนย์หน้าของค่ายจิ้งจอกจะมาวิน แต่ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ปืนฝืด จนถูก โอบาเมย็อง หัวหอกไอปืนใหญ่ตีตื้นขึ้นมาอยู่ที่ 17 ประตู เท่ากันในลีก โดยแม้ทั้งคู่จะทำประตูให้ทีมได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ผลงานของทีมต่างกันราวฟ้ากับเหว โดยเลสเตอร์ ซิตี้ รั้งอันดับ 3 ของตาราง จากการลงเล่น 29 นัด ส่วน อาร์เซนอล จมอยู่กลางตารางที่อันดับ 9 หลังจากแข่งไป 28 นัด
- ลิโอเนล เมสซี่ (ลาลีกา สเปน : 19 ประตู)
เจ้าเก่าหน้าเดิมสำหรับนักเตะจากต่างโลก ลิโอเนล เมสซี่ ที่พอคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายไปหาความท้าทายใหม่ที่กรุงตูริน ทำให้ เมสซี่ ไร้คู่ต่อกร นำดาวซัลโวอย่างโดดเดี่ยว ณ เวลานี้ โดยนำห่างอดีตเพื่อนร่วมทีมของ CR7 อย่าง คาริม เบนเซม่า ที่ทำไป 14 ประตู ที่ 5 ลูกด้วยกัน
- ชิโร่ อิมโมบิเล่ (เซเรีย อา อิตาลี : 27 ประตู)
ไม่ได้มาเล่น ๆ จริง ๆ ปีนี้สำหรับ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ที่เป็นคีย์แมนสำคัญ ช่วย อินทรีย์ฟ้าขาว ลาซิโอ้ โกยประตูไปมากถึง 27 ประตู ในลีก และพาทีมรั้งอันดับ 2 ของตาราง เบียดคู่คี่สูสีกับจ่าฝูงยูเวนตุสอย่างดุเดือด โดยแข่ง 26 นัดเท่ากัน แต่มีแต้มตามหลังทีมม้าลายเพียงแต้มเดียวเท่านั้น ซึ่งหากฤดูกาลนี้ถูกตัดจบลง ต้องถือว่าน่าเสียดายทั้งผลงานส่วนตัวและผลงานของทีมอย่างมาก
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บุนเดสลีกา เยอรมัน : 25 ประตู)
นี่ก็ผูกขาดอีกรายสำหรับ หัวหอกชาวโปแลนด์อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่แม้จะมี ติโม แวร์เนอร์ ศูนย์หน้าของอาร์เบ ไลป์ซิก มาร่วมวงแย่งชิงตำแหน่ง ดาวซัลโว แต่ด้วยศักยภาพของเพื่อนร่วมทีม ทำให้ศูนย์หน้าของเสือใต้ มีผลงานที่ข่มอยู่นิด ๆ
- คิลิยัน เอ็มบาปเป้/วิสซาม เบน เยดเดอร์ (ลีก เอิง ฝรั่งเศส : 17 ประตู)
ด้วยความที่ เปเอสเช คือแชมป์ผูกขาดของลีกเมืองน้ำหอม ทำให้ หัวหอกอย่าง คิลิยัน เอ็มบาปเป้ คือดาวซัลโวไปโดยปริยาย และไฮไลท์ในปีนี้นั้น คือการที่ เบน เยดเดอร์ ที่เพิ่งย้ายร่วมก๊วนโมนาโกในปีนี้เป็นปีแรก แต่กลับทำประตูถล่มทลายเทียบเท่ากับศูนย์หน้าที่เชื่อว่ามีค่าตัวสูงอันดับต้น ๆ ของโลก ณ ตอนนี้ ซะอย่างนั้น
